วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

เลือกซื้อครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะกับคนไทย

เลือกซื้อครีมกันแดดอย่างไรดี


ไม่ต้องบอกกันมากนะครับว่าในแสงแดดนั้นมีรังสีอยู่หลายชนิดนะครับ อาจเป็นรังสีคลื่นสั้นหรือคลื่นยาวก็แล้วแต่ แต่ที่รู้จักกันดีก็คือ รังสีอุลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี(UV) นั้นเอง ซึ่งรังสี ยูวีนี้จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซน (Ozone) มีแค่รังสีสองชนิดเท่านั้นคือ รังสี UVAและ รังสี UVB ที่ส่องลงมาถึงพื้นโลก



ซึ่งรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลต่อผิวหนังคนเราโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รังสี UVA วึ่งมีผลทำให้เกิด กระ ฝ้า เหี่ยว แก่ก่อนวัยครับ อันหลังนี้ซิคงไม่มีใครชอบแน่ๆ ในส่วนของรังสี UVB มีผลทำให้เกิดการ แดง แสบ และไหม้ ของชั้นผิวหนังด้านนอกครับ และยังมีอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ 

รังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free radical) ซึ่งจะทำลายโปรตีนพันธุกรรม (DNA) ทำให้เกิดเนื้องอกบริเวณผิวหนังได้ครับ แล้วส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งตามมา  แต่ก็ไม่ต้องตกใจให้มากนะครับเพราะว่าวันนี้ผมมีวิธีดีในการ เลือกซื้อครีมกันแดด มาฝากกันครับ เพื่อปกป้องผิวคุณต่อรังสี UVs




วิธีการเลือกครีมกันแดด


  1. SPF นั้นย่อมาจาก Sun Protective Factor นั้นหมายความว่าเป็นตัวบอกว่า ป้องกัน รังสี UVB ได้กี่เท่านั้นเอง ในส่วนของรังสี UVA ยังไม่มีค่ามาตรฐาน เหมือนของ UVB แต่ในปัจจุบันนิยมใช้ค่า PA และมีเครื่องหมาย + อยู่ด้วยค่า + เพิ่มมากขึ้นบกชี้ว่าสามารถปกป้องจากรังสี UVA ได้ดีขึ้น ปกติและคนไทยมีผิวคล้ำซึ่งเม็ดสีเมลานินนั้นสามารถป้องกันรังสี UVB ได้บ้างแล้วอยู่แล้ว ดังนั้นควรเลือกค่า SPF มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป ก็เพียงพอนะครับ แต่ถ้าหากเป็นคนเอเซียแบบผิวขาวหรือเหลือง ควรเลือกให้มีค่า SPF มากขึ้น คือ 30-50 ก็เพียงพอแล้วครับ
  2. ให้ดูว่ากิจกรรมที่คุณเลือกทำนั้นเป็นกิจกรรมในร่มหรือกลางแจ้ง ถ้าเป็นการออกกำลังกลางแจ้งแล้ว มีเหงื่อร่วมด้วย หรือการว่ายน้ำ ที่ทำกลางแดดละก็ ต้องใช้ค่า SPF ที่สูงขึ้น 30-50 ไปเลยครับและควรเลือกประเภทที่กันน้ำได้ด้วยนะครับ (Water Proof หรือ Water Resistance)
  3. ในส่วนของปริมาณครีมกันแดดนั้น ควรใช้ปริมานที่ไม่น้อยเกินไปครับ อย่าลืมนะครับว่าสารเคมีที่ใช้ในครีมกันแดดนั้นถ้าใช้น้อยเกินไปจะมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการป้องกันจากแสงแดด และบางส่วนอาจทำปฏิกิริยากันทำให้ลดคุณภาพลงไปได้ครับ ปริมาณที่ใช้ควรใช้ในปริมาณที่ทาแล้วไม่หนาไม่บาง ลูบไลให้ทั่วบริเวณที่ต้องการปกป้อง ถ้าส่วนในต้องเจอกับแสงแดดโดยตรงก็ให้ทาให้มากขึ้นครับ
  4. การทาในแต่ละวันกี่ครั้งถึงจะเพียงพอ ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ ถ้าที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ หรือห้องแอร์ แค่วันละครั้งก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าต้องทำงานกลางแดดหรือเจอแสงแดดเป็นประจำตลอดทั้งวัน โดนลมบ้าง อาจจะทาวันละ 2-3 ครั้ง ถ้าว่ายน้ำต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมงครับ
  5. การเลี่ยงแดดเมื่อทาเสร็จแล้วก็จำเป็นครับ ควรใส่แว่นกันแดด ใส่หมวกช่วยในการปกป้องผิวหนังจากแสงแดดอีกทางหนึ่ง เอย่าลืมนะครับว่าครีมกันแดดไม่ได้กันแดดได้ 100 % ครับ
  6. ควรเลือกยี่ห้อ ราคา ที่เหมาะสมนะครับ ดูสารเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมก็สำคัญ ขอให้มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดครบ และไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนังเรา เป็นสำคัญเช่น  ผื่น คัน และแสบ
  7. ควรรับประทานอาหารที่มีความสามารถในการกำจัดสารอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน เกลือแร่ ในผักสดทุกชนิด และผลไม้สดด้วยนะครับ



รู้จัก เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมกับผิว ก็มีหน้าหน้าใส หน้าเป๊ะ เหมือนเด็กๆ ได้แล้ว และกิจกรรมของคุณแล้ว คุณก็จะสามารถปกป้องผิวสวยของคุณจากแสงแดดได้สบายๆๆ เลยครับ อย่าลืมทา ครีมกันแดด และ .ใช้ ครีมบำรุง ทุกวันนะครับ…...


วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ดูแล ผิวสวย ใส ไร้สิว ไร้จุดด่างดำ"

วิธีทำให้"ผิวสวย ใส ไร้สิว ไร้จุดด่างดำ"

การที่อยู่ดีๆ หน้าหล่อๆ สวยๆ ใสๆ ของเรานั้นเกิดเป็นสิวขึ้นมามันก็เป็นอะไรที่เครียดแล้ว พอสิวหายแทนที่เราจะดีใจ กลับกลายเป็นว่าเจ้าสิวตัวดีทิ้งร่องรอยด่างดำเอาไว้อีก มันยิ่งเป็นอะไรที่เครียดมากกว่าเดิมอีก กว่าหน้าจะเป็นปกติก็ต้องใช้เวลานาน วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำวิธีที่จะทำให้เจ้ารอยสิวเจ้าปัญหาหายไปจากใบหน้าของเราไวๆ พร้อมทั้งวิธีป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะเกิดสิว




วิธีที่จะทำให้ไม่เกิดรอยด่างดำง่ายๆ


1. ไม่บีบสิว
หลายๆคนเป็นสิวแล้วชอบบีบสิว เพราะว่าด้วยจะสนุก มันส์ หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งนี้แหละจะทำให้สิวอักเสบได้ เพราะว่ายิ่งบีบก็ยิ่งทำให้แบคทีเรียกระจายออกไป แถมยังเปิดรูขุมขนให้สัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการบีบก็จะทำให้ผิวช้ำและเป็นรอยแผลเป็นตามมา ฉะนั้นจึงไม่ควรบียสิวเด็ดขาด ปล่อยให้สิวมันยุบหรือหายไปเอง


2. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวอักเสบ
เมื่อเป็นสิวแล้ว ถ้าอยากจะให้มันหายเร็วๆ ก็ไม่ควรที่จะไปกระตุ้นมันให้เกิดอาการอักเสบหรือว่าติกเชื้อแบคทีเรียเพิ่ม ฉะนั้นควรจะหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวอักเสบ โดยวิธีเหล่านี้ เช่น ควรรับประทานอาหารที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์จำพวกวิตามินเอ ซี และ อี ซึ่งจะช่วยในเรื่องการบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังได้

เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ความงาม ครีมหน้าใส หน้าเป๊ะ ที่ไม่เพิ่มความมันให้กับผิวหน้าของเรา อาจจะมากส์หน้าด้วยโคลนก็ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินได้ดีเช่นกัน, หลีกเลี่ยงการโกนหากผิวบริเวณนั้นเป็นสิว หรือถ้าจำเป็นต้องโกนจริงๆ หลีกเลี่ยงการลากใบมีดไปโดยบริเวณที่เป็นสิว และเปลี่ยนใบมีดใหม่ก่อนทำการโกนเพื่อหลีกเลี่ยงอาการอักเสบ ติดเชื้อ ที่อาจเกิดขึ้นได้


3. พบแพทย์ผิวหนังรักษา
พบแพทย์ผิวหนังถ้าลองมาหมดแล้วยังไม่หายหรือไม่ทันใจ เข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณและจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพต่อไป ไปหาแพทย์ผิวหนังแล้วกลับมาก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้รอยแผลและจุดด่างดำจากสิวจางลงโดยเร็ว


วิธีดูแลไม่ให้เกิดสิว


1. ล้างหน้าให้สะอาด
การล้างหน้าให้สะอาดเป็นด่านแรกของการที่จะไม่เกิดสิว เพราะวันๆ หนึ่งเราเจอะเจอกับมลภาวะมาทั้งวัน ดังนั้นเราจึงควรต้องล้างหน้าให้สะอาด ในวันหนึ่งๆ เราควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนเช้าและตอนเย็น โดยเฉพาะตอนเย็นนี้ยิ่งต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษมากๆ ด้วยเพราะว่า ฝุ่น เครื่องสำอางคราบเหงื่อไคล ที่มันหมักหมมบนใบหน้าเรา 

เราต้องล้างหน้าให้สะอาด ทางที่ดีควรจะเช็ดด้วยคลีนซิ่งเอาสิ่งสกปรก เครื่องสำอางออกให้หมดก่อน แล้วจึงล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ซับหน้าให้สะอาด จากนั้นจึงทาครีมบำรุงผิวหน้า รวมผลิตภัณฑ์รักษาสิวและลดรอยด่างดำ


2. หลีกเลี่ยงแสงแดด
หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้าหรือการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน เพราะรังสียูวีในแสงแดดนอกจากจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองจากแสงแดด แล้วยังทำให้ผิวคล้ำเสียซึ่งทำให้มองเห็นรอยด่างดำเข้มขึ้นกว่าเดิมด้วย


3. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ซึ่งนำมาสู่การเกิดแผลและรอยด่างดำเมื่อสิวหาย
ถ้าไม่อยากมีสิว จะได้ไม่ต้องกลัวการเกิดรอยด่างดำ ก็ต้องป้องกันกันตั้งแต่แรกเลย อาทิเช่น สระผมให้สะอาดเพราะว่าอาจจะมีการหมักหมมสิ่งสกปรก เมื่อปล่อยผมตกลงมาบนใบหน้าก็จะนำพาให้เกิดสิวได้, ไม่แต่งหน้ามากจนเกินไป 

เนื่องจากเครื่องสำอางจะไปอุดตันรู้ขุมขนทำให้เกิดสิวได้ ถ้าแต่งก็ต้องล้างออกให้หมดจด และต้องเลือกใช้เครื่องสำอางที่เป็นสูตรอ่อนโยนหรือที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับผิวหน้าของเรา


4. รักษาสิวทันทีที่ผุดขึ้นบนใบหน้า
เมื่อรู้สึกว่าจะเป็นสิวก็ให้ทำการรักษาโดยด่วน ก็จะทำให้เกิดโอกาสที่จะมีรอยด่างดำจากสิวลดลงด้วย


5. ดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษสำหรับผิวแพ้ง่าย
สำหรับใครที่เป็นแผลหรือว่าเป็นเป็นสิวแล้วทิ้งริ้วรอยไว้แล้วหายอยากกว่าคนอื่น นั้นแสดงว่าอาจจะเป็นที่พันธุกรรมและสภาพผิวของคุณ ดังนั้นคุณจะต้องดูแลรักษาผิวตัวเองให้มากเป็นพิเศษ


6. ใช้ชีวิตแบบสุขภาพดี
ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียง ออกกำลังกายทุกวัน ทานอาหารที่เป็นปรโยชน์ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดสิวได้ เพราะว่าการพักผ่อนที่เพียงพอจะทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ส่วนการออกกำลังกายนั้นก็จะทำให้เลือดสูบฉีดทั่วร่างกายซึ่งจะช่วยขับของเสียออกจากรูขุมขนและทำให้ผิวสามารถดูดซับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ดีขึ้น สุดท้ายรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่นอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงจะช่วยลดความรุนของอาการผิวหนังอักเสบรวมถึงสิวอักเสบได้

เครดิต : vivikorea.com

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อายครีม ควรใช้ตอนไหนดี?



"อายครีม" ควรใช้ตอนไหนดี?

ยิ่งอายุเยอะ ริ้วรอยก็เกิดเป็นเรื่องปกติ ทั้งรอยย่น รอยตีนกา รอยหมองคล้ำ รวมทั้งรอยคล้ำและถุงใต้ตา ก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะการนอนดึกเป็นประจำรอยคล้ำและถุงใต้ตาถามหาแน่ๆ  ดังนั้นก็เลยต้องบำรุงใต้ตากันบ้าง หนึ่งในวิธีนั้นก็คือการใช้อายครีม วิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้เวลามากมายถ้าเราไม่ค่อยมีเวลา ถ้าเรารู้สึกว่าผิวรอบดวงตาดูไม่สดใสหรือหากว่ายังไม่มีแต่กันไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก




ครีมบำรุงใต้ตามีมากมายให้เลือกหาทั้งราคาถูกและแพง รวมไปถึง ครีมบำรุงผิวหน้า บางตัวก็อาจจะที่สามารถใช้รอบดวงตาด้วยได้ ซึ่งบางยี่ห้อก็ใช้ได้บางยี่ห้อก็ไม่ระบุไว้ ถ้าอันไหนมีการระบุบนบรรจุภัณฑ์ว่าใช้บริเวณรอบดวงตาได้ก็แสดงว่าใช้ได้ ต้องอ่านที่ฉลากกันให้ดีก่อนใช้ แต่ทางที่ดีเราก็ควรซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใช้เฉพาะรอบดวงตาโดยเฉพาะมาใช้


เวลาใช้ควรทาให้ห่างจากบริเวณรอบดวงตาประมาณ 2 เซ็นติเมตรเพื่อความปลอดภัย โดยการค่อยๆ ใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมให้ซึมเข้าผิวรอบดวงตาแทนการใช้นิ้วชี้ เพราะว่านิ้วชี้เป็นนิ้วที่มีน้ำหนักมาก รอบดวงตาเป็นที่ที่บอบบางดังนั้นเราต้องทาอย่างเบามือ แทนที่จะสวยจะกลายเป็นได้ริ้วรอยมาแทน



ดวงตาดูสดใสใครๆ ก็อยากมอง ใครๆ ก็จะมีหน้าใส หน้าเป๊ เหมือนเด็กๆ ว่าไหม ?แต่ถ้ามีรอยคล้ำใต้ตา มีถุงใต้ตาที่เหมือนหมีแพนด้า มีริ้วรอยรอบดวงตาก่อนวัย เราก็จะดูโทรมแก่กว่าวัยไม่น่ามอง ดังนั้นเราต้องดูแลรักษารอบดวงตาให้สดใส จะได้ดูเด็กลงและดูอ่อนเยาว์วัยด้วย อย่าลืมที่จะบำรุงและป้องกันกันแต่เนิ่นๆ หละ 

-เครดิต : http://www.lovelybeautyofficialshop.com